ในปัจจุบัน มวยปล้ำเป็นกีฬาที่ถูกจัดให้อยู่ในหมวด Sport Entertainment ดังนั้นความบันเทิงส่งมอบสู่คนดูเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หลายๆคนที่ดูมวยปล้ำมาหลายสิบปีจนเข้าสู่ช่วงวัยกลางคนจะรู้ได้ว่ามวยปล้ำเป็นกีฬาที่มีการกำหนดบท (scripts) ไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่แรก ต่างกับเด็กๆที่ดูมวยปล้ำที่ยังคงมีประสบการณ์น้อย สับสนและสงสัยว่านี่คือเรื่องจริงหรือไม่ โกรธกันจริงหรือเปล่า เจ็บตัว หัวแตกกันจริงใช่ไหม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเหล่าเด็กๆพวกนี้โตกันเป็นผู้ใหญ่ก็จะเข้าสู่วงจรของการรับรู้ว่ามันเป็นบทบาทที่ถูก set ไว้แล้วนั่นเอง และนี่เองเป็นที่มาของบทความนี้ที่จะมาเปิดเผยความลับของวงการมวยปล้ำ
ตั้งแต่ยุค Internet เข้ามามีบทบาทกับวีถีชีวิตคนเรามาได้เกือบ 20 ปี ข้อมูลข่าวสารทุกอย่างนั้นถือว่ารวดเร็วและปัจจุบันมาก มีข่าวมวยปล้ำวงในอะไรบางทีคนอ่านข่าวรู้ผลลัพธ์ก่อนแมทช์เสียอีก แตกต่างกับคนดูสมัยก่อนที่มีโอกาสดูการแข่งขันสดหรือในจอทีวีรายสัปดาห์เท่านั้นแต่ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารอื่นๆ ได้อีกเนื่องจากไม่มีช่องทางอย่าง Internet นั่นเอง (สมัยก่อนไปดูการแข่งขันจริงๆจะถูกอนุญาติให้เอาแค่กล้องถ่ายรูปแบบ analog เข้าเท่านั้น กล้องถ่ายวีดีโอก็เอาเข้าไม่ได้จะถูกยึดทางเข้าก่อนยื่นตั๋วเข้าชมด้วยซ้ำไป)
ดังนั้นเมื่อโลกเปลี่ยนไป (ซักพักและ) คนดูอย่างเราๆนี่แหละที่มีส่วนร่วมหลักในการแชร์ข้อมูลความลับของวงการมวยปล้ำ อีกทั้งยังร่วมสนุกเดิมพันกีฬาอื่
แต่หากท่านไหนอยากจะเข้าไปสัมผัสความลับที่ WWE ไม่อยากบอกใครต่อละก็ เราไปอ่านกันต่อได้เลยครับ!
1. คนดูจอมดราม่าที่ถูกจ้างมานั่งเชียร์
ถ้าเป็นสมัยก่อน ย้อนไปไกลๆ ซัก 30 ปี ช่วงธรรมะ vs อธรรม แบบคนละขั้วเช่น Hulk Hogan อเมริกันฮีโร่ที่แท้จริงนั้น ตอนพี่ Hulk โดนทำร้ายหรือโดนโกง กล้องจะถูกซูม closeup ไปที่หน้าเด็กๆที่แสดงอาการเป็นห่วงเป็นใยฮีโร่ของพวกเขา ซึ่งเด็กๆพวกนั้นแสดงออกทางสีหน้ากันอย่างแท้ใจเพราะมันมาจากจิตใต้สำนึกของเด็กน้อยที่แสนบริสุทธิ์ แต่ถ้าคุณเป็นคนดูตัวยงที่แบบว่าดูทุกอาทิตย์นี่จะเริ่มเห็นและว่า “เอ ทำไมผู้ใหญ่บางคนหน้าแม่งคุ้นจังว่ะ?” นั่นก็เป็นเพราะคนบางคนถูกจ้างมาให้เชียร์แถวหน้าๆนั่นเอง โดยมีบทบาทคือต้องใส่อารมณ์ โกรธ ดีใจ ช็อค ให้เกินมาตรฐานคนทั่วไป พูดง่ายๆคือใส่อารมณ์แบบเวอร์วังอลังการเพื่อให้คนดูทางบ้านรู้สึกได้รับอรรถรสร่วมในการดูมวยปล้ำด้วยนั่นเอง
โดยในฝั่ง WCW ใช้กลยุทธ์อีกแบบด้วยการจ้างนางแบบสาวสวยมายืนปะปนในวงคนดู พอกล้องซูมเข้าไปก็จะเห็นแต่ผู้หญิงสวยๆ นั่นเอง
2. Script ที่บังเอิญลืมหยิบออกจากโต๊ะผู้บรรยาย
ปี 2014 เกิดกระแสไวรัลในวงการมวยปล้ำ เมื่อ script หรือบทของแต่ละแมทช์ถูกเขียนออกมาในกระดาษแบบละเอียดยิบ ตั้งแต่บทโปรโมทระหว่าง Bray Wyatt กับ John Cena แบบทุกคำพูด คิวเดินเข้าออก คิว Bray Wyatt ที่ต้องล้มทรุดเมื่อได้ยินเสียงเปิดตัว Cena รวมถึงระยะเวลาของแต่ละช่วงนาทีต่อนาที ช่วงตัดเข้าโฆษณา ใครจะชนะใครจะแพ้ในคืนนั้นและอื่นๆอีกมากมาย
3. นักมวยปล้ำสู้กันไปเตี๊ยมกันไป
มวยปล้ำเป็นศาสตร์ที่ต้องปล้ำกันอย่างเนียน อย่าสะดุด เพราะบางครั้งที่เราเห็นมวยปล้ำหลุดคิว หรือที่เรียกว่า “Botch” เราก็จะแอบขำเพราะมันดูผิดธรรมชาติและเก้ๆกังๆ ดังนั้นวิธีการแก้ของเหล่านักมวยปล้ำคือ ซ้อมสิครับ! แต่ในขณะเดียวกันตอนปล้ำจริงต่อหน้าคนดูถ้าเราสังเกตุดีๆจะเห็นนักมวยปล้ำแอบคุยกันแบบไม่เปิดปาก (แต่บางวีดีโอที่ฝรั่งเอามาแชร์คือแบบเสียงเข้ากล้องเลยนะ) ซึ่งส่วนมากจะเป็นการเตี๊ยมว่าท่าต่อไปจะเป็นท่าอะไร แล้วต้องบอกว่าคู่ต่อสู้จะหลบได้ เคาน์เตอร์ได้ หรือต้องโดนเต็มๆ นั่นเอง ซึ่งส่วนมากตอนคุยกันจะเป็นช่วงตอนจับทำซับมิชชั่นท่าล็อคต่างๆ หรือตอนเข้ามุมเอาตัวติดกันพร้อมที่จะเด้งเชือกคู่ต่อสู้ ก็เอาเวลานั่นแหละในการกระซิบจ้า หรือบางครั้งก็มีการซิบกันว่า “มึงหันผิดมุมและ” ยกตัวอย่างตอนที่ Shawn Michaels ปล้ำกับ Great Khali ในศึก Royal Rumble Shawn ก็มีแอบบอกพี่เบิ้มให้ปรับมุมให้ถูก เพราะเอ็งหันตูดหากล้องนั่นเอง
4. การเมืองหลังฉากและการแบ่งพรรคพวก
เนื่องจากมีดราม่าขัดแข้งขัดขากันเยอะมากในห้องแต่งตัว ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งกลุ่มดี และกลุ่มที่แย่ที่มีการคานอำนาจกัน กลุ่มนักเลงก็รวมหัวกัน bully นักมวยปล้ำที่โดดเดี่ยวหรือไม่เป็นที่ชื่นชอบจนถึงขั้นนักมวยปล้ำบางคนอยู่ไม่ได้ต้องลาออกจากสมาคม WWE (WWF) หรือบางคนเก่งๆ แต่ถูกดองไม่ได้เกิดเพราะเจ้าพวกกลุ่มนักเลงที่มีอิทธิพลสูงมากขนาดสามารถโน้มน้าว Vince McMahon ได้หลายต่อหลายครั้ง บางกลุ่มมีฟอร์มตัวกันเพื่ออย่างเช่นกลุ่มของ Undertaker ในช่วงปี 90’s ซึ่งประกอบไปด้วยตัวเขาเอง Paul Bearer, Yokozuna, The Godfather เป็นต้น ในขณะที่กลุ่ม Bully ที่มีชื่อว่า The Kliq ซึ่งนำโดย Shawn Michaels และเพื่อนพ้อง HHH, Kevin Nash, X-Pac, Scott Hall เป็นกลุ่มที่บรรลัยมาก จัดการการเมืองทุกอย่างจนนักมวยปล้ำหลายคนทั้งตัวเก่ง ทั้ง rookie อนาคตไม่ได้ถูกดันได้ไกลกว่าที่ควรจะเป็นเพราะพี่แกเล่นขอบทเด่น บทแชมป์โลกเส้นใหญ่วนๆไปในกลุ่ม CM Punk สมัยตอนย้ายมาแรกๆ ก็โดน bully หนัก Bobby Lashley ก็ด้วย ขนาด Big Van Vader ที่เป็นอสูรกายสุดน่ากลัวอดีตแชมป์ WCW พอย้ายมา WWF ช่วง 90’s ก็โดน Shawn Michaels ไปฟ้อง Vince ว่าเฮีย Vader ปล้ำหนักเกินไป เขียนบทให้ Vader ไม่สามารถปล้ำชนะเขาได้ จน Vader ก็ต้องเป็น 1 ในนักมวยปล้ำที่จำใจออกจากสมาคมไปอีกคนในช่วงเวลานั้น
5. Vince McMahon ถืออำนาจเบ็ดเสร็จและเด็ดขาดในการตัดสินใจในทุกกรณี
รู้หรือไม่ว่า WWE/WWF มีทีมเขียนบทอยู่หลายคนมาก รวมถึง HHH และ Stephanie ที่สามารถตัดสินใจในระดับบริหารได้ แต่ Vince ก็ยังถือว่าเป็นคนที่ตัดสินใจได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องผ่านใคร ยกตัวอย่างเมื่อ 2-3 ปีก่อน Vince จะปั้น Roman Reigns อยู่ท่าเดียวไม่สนใจใครถึงแม้ว่าแฟนๆจะโห่ร้อง โห่ไล่ Roman Reigns อยู่ทุกสัปดาห์ก็ตาม ซึ่งเราก็เข้าใจว่า WWE มาถึงได้ ณ จุดนี้ที่เป็นสมาคมวยปล้ำของโลกก็เพราะฝีมือเขานี่แหละ แต่บางครั้งการตัดสินใจในบางสถานการณ์ก็เปลี่ยนประวัติศาสตร์ของ WWE ไปตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็น Montreal Screw Job ที่ Shawn Michaels ใส่ sharpshooter Bret “Hitman” Heart แล้วกรรมการลั่นระฆังให้ Bret แพ้ไปเลยทั้งๆที่ยังไม่ได้ยอมแพ้ ซึ่งเบื้องหลังคือ Vince ตกลงเรื่องการเซ็นสัญญาใหม่ด้วยเงื่อนไขค่าตัวกับ Bret ไม่ได้ รวมถึงอยากเปลี่ยนบทใหม่ให้ Shawn ชนะกระชากแชมป์จาก Bret ที่ไม่ยอมเสียแชมป์ในบ้านเกิดของตนที่ประเทศแคนนาดานั่นเอง หรือจะเป็นการตัดสินใจในคืนนั้นทันทีว่าให้ Undertaker แพ้ Brock Lesnar เสียสถิติชนะรวดศึก Wrestlemania เป็นต้น สามารถติดตาม highlight WM30 ได้ที่นี่
6. มุมกล้องและการจัดฉากกรณีคนนั่งไม่เต็มความจุสนาม
ตอนเราดูมวยปล้ำจากทางบ้านเราจะรู้สึกว่าสนามเต็มความจุตลอดเวลา ซึ่งก็แปลว่าแฟนๆให้การต้อนรับและแย่งกันซื้อตั๋วเพื่อมาดูมวยปล้ำที่ตนเองชื่นชอบ อย่างไรก็ตามสมาคมไม่สามารถขายบัตรได้หมดเสมอไปและในบางครั้งตอนช่วงที่บทไม่สนุกไม่น่าติดตาม คนดูยิ่งมาดูน้อยลงอย่างน่าใจหาย อย่างในอดีต WCW เลือกที่จะเช่าสนามการแข่งขันที่เล็กไปเลยเพื่อให้ดูเต็ม หรือวิธีอื่นๆที่ยังคงใช้กันอยู่ในปัจจุบัน อาทิ หั่นราคาหน้าตั๋วลงมาหนักๆ ในนาทีสุดท้ายสำหรับแฟนๆสายประหยัดหรือถึงขนาดแจกตั๋วฟรีเลยก็มี ให้คนดูที่ซื้อตั๋วถูกลงมานั่งฝั่งตั๋วแพงด้านล่างเพื่อให้ดูเต็ม หรือกระทั่ง “คนดูจำเป็นมืออาชีพ” ที่ถูกจ้างมานั่งกระจายทั่วทั้งสนามเพื่อให้ดูเต็ม โดยวิธีของพวกนั้นคือนั่งกระจายแบบสุ่มไปก่อน พอช่วงที่ศึกเริ่มตัดเข้าช่วง break เข้าห้องน้ำ คนพวกนี้ก็จะหาที่นั่งที่ใกล้เวทีที่ยังว่างและเดินลงมานั่งที่ตรงนั้นเลย หากเจ้าของตั๋วตัวจริงมา พวกนี้ก็จะขอโทษอย่างสุภาพแล้วแล้วไปหาที่นั่งแถวๆนั้นใหม่
7. อาวุธจริง? อาวุธปลอม?
อุปกรณ์เสริมในมวยปล้ำนั้นมีทั้งจริงและปลอม ของจริงเช่น เก้าอี้เหล็กแต่อาจมีการถอดน๊อตบ้างเพื่อให้มันยุบง่ายขึ้นเมื่อฟาดใส่คู่ต่อสู้ อีกทั้งตอนกำลังจะโดนฟาดก็จะมีการเอามือขึ้นมาตบในเวลาพร้อมกันเพื่อลดแรงกระแทกและเพิ่มเสียง effect ให้ดูแรงขึ้น ทั้งนี้ทั้งเก้าอี้เหล็กและบันไดต่างก็ถูกผลิตโดยใช้โลหะเบาซึ่งภายในจะกลวง ดังนั้นตอนโดนฟาดใส่จะเจ็บไม่เท่ากับที่เราใช้กันในชีวิตจริง แต่ก็ยังถือว่าเจ็บมากหากโดนฟาดเต็มแรง พวกหมุดที่ทิ่มเข้าไปตามร่างกายนักมวยปล้ำนี่ก็ของจริงครับ เราจะเห็นสีหน้าของนักมวยปล้ำตอนโดน slam ลงไปที่หมุด เห็นแล้วสยองแทน
ส่วนของเก๊เลยจะเป็นโต๊ะซึ่งถูกสั่งทำให้บางเป็นพิเศษที่ในบางครั้งหลุดคิวแค่ขึ้นไปยืนก็หักซะแล้ว โต๊ะผู้บรรยายตอนที่นักมวยปล้ำกำลังจะถูกฟาดลงไปทีมงานจะมีการดึงสายลวดที่มองเห็นยากออกพร้อมกันสี่มุมในเวลาที่กำลังจะกระแทกพอดีทำให้โต๊ะผู้บรรยายเหมือนหักออกจากการฟาดที่รุนแรง กีตาร์นี่ทำจากไม้จริงแต่ถูกออกแบบให้เบากว่าปกติฟาดจะได้แตกง่ายๆ กระจกที่ถูกเหวี่ยงฟาดแตกกระจายซึ่งไม่เคยบาดนักมวยปล้ำเลยทำมาจากน้ำตาล (Sugar glass) ซึ่งปลอดภัยไม่เป็นอันตราย
8. สัญญาณมือ “X”
เป็นทริคที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อนเลย โดยสัญญาณมือที่ชูขึ้นเป็นรูปตัว X โดยกรรมการเป็นการส่ง signal ไปให้คนคุมหลังฉากว่าตอนนี้เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ส่วนมากจะเป็นการแจ้งว่านักมวยปล้ำบาดเจ็บจริงและต้องรีบส่งทีมปฐมพยาบาลเพื่อมาสแตนบายนักมวยปล้ำทันที เพราะบางทีพวกเราคนดูที่เห็นนักมวยปล้ำเล่นใหญ่ ตกจากที่สูง 20 เมตร หรือโดนเพาเวอร์บอมฟาดใส่เก้าตี้หักนั้น เราก็อดเป็นห่วงเหล่านักมวยปล้ำพวกนั้นไม่ได้ ดังนั้นหากเรายังไม่เห็นเครื่องหมาย X นั่นก็แปลว่านักมวยปล้ำยังโอเคอยู่นั่นเอง
9. กรรมการสุดยอดแห่งหน้าที่ในการกำกับเวลา
เคยสงสัยกันบ้างไหมว่ามวยปล้ำออกอากาศ 2 ชม. หรือ 3 ชม. ทำไมทุกคู่จบได้ตรงเวลาเป๊ะๆ รวมถึง Pay-Per-View ซึ่งการจองเวลาตารางการถ่ายทอดสดนั้นถือว่าสำคัญในทางธุรกิจมาก และต้องจบให้ได้ตามที่ทำสัญญากับช่องทีวีแบบห้ามเลยแม้แต่นาทีเดียวไม่งั้น WWE โดนค่าปรับอ๊วกแตกแน่ ว่าแต่เขาทำกันได้อย่างไร? นี่แหละเป็นบทบาทของกรรมการโดยตรง กรรมการที่เราว่าอ่อนด้อย มองไม่เห็นตอนฝ่ายอธรรมโกง หรือโดนลูกหลงแล้วนอนแน่นิ่งนานๆ พี่แกแบบจัดฉากได้ด้วยตัวเองหมด! รวมถึงการบริหารเวลาอันมีค่าให้จบให้ได้ตามที่วางไว้ โดยตอนแมทช์กำลังจะจบเช่นตอนกดนับ 3 หากคนโดนกดยังชำเลืองมองไปที่กรรมการนั่นแปลว่าเดี๋ยวจะ kick out หลุดออกมาได้ แต่หากถึงเวลาปิดฉากนักมวยปล้ำที่โดนกดอยู่จะหลับตาไปเลยเพื่อส่งสัญญาณว่าโดนกดแพ้แน่นอน นี่ยังไม่รวมตอนพักเบรคใส่ท่า submission แล้วกรรมการเข้าไปชี้ถามว่ายอมแพ้ไหม จริงๆนอกจากนักมวยปล้ำจะได้พักเหนื่อยแล้ว กรรมการยังแอบบอกนาทีที่เหลือเพื่อให้ปิดฉากได้ตามตารางปล้ำนั่นเอง
10. ตบขาบนเพิ่มเสียงท่าโจมตี
สมัยก่อนเคยสงสัยไหมครับว่าทำไม Shawn Michaels ใส่ท่า Sweet Chin Music เตะใส่คางคู่ต่อสู้ได้เสียงดังมากแบบคนโดนนี่หลับไม่ตื่นแน่นอน ทำไมถึงได้รุนแรงขนาดนั้น? แต่หากเราดูมวยปล้ำในปัจจุบันเราสังเกตุกันหน่อยจะร้องอ๋อทันทีนั่นเพราะตอนนักมวยปล้ำใส่ท่า super kick หรือเข่าลอย หรือท่าต่างๆที่เป็นท่าปะทะ พวกเขาจะตบขาบนเพื่อเพิ่ม sound effect ให้ดูเจ็บนั่นเอง แต่พักหลังๆทำได้ไม่เนียนเลยสังเกตุเห็นง่ายมากแถมใครๆก็มีท่า super kick กันหมด หายขลังเลยท่าไม้ตาย Shawn Michaels รวมถึงท้าไม้ตาย Tajiri เตะก้านคออีกด้วย
นอกเหนือจากท่าข้างต้น การชกและทุบโดยกระทบขาลงพื้นทั้งตัวก็ช่วยทำให้การต่อยดูสมจริงทั้งๆที่บางครั้งต่อยไม่โดนด้วยซ้ำไป
เป็นไงกันบ้างครับกับความลับมวยปล้ำที่สมาคมไม่อยากให้แฟนๆ รู้ จริงๆมีมากกว่านี้แต่วันนี้ขอแค่ 10 เรื่องก่อน ไว้ยังไงจะ update เพิ่มในบทความต่อไปครับ