รำลึกความโคตรแสบตำนานตัวตึง "ไม่สนปี่สนขลุ่ย" แห่งสมาคมบาสเกตบอลอาชีพ NBA อย่าง Dennis Rodman ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้ "สนุกกับชีวิตที่เกิดมา" โดยไม่คำนึงถึงใครจะเดือดร้อนแต่อย่างใด และช่วงยุคปี 1997 นั่นเองที่ทำให้เขาได้โอกาสเข้ามาวาดลวดลายให้กับสมาคมมวยปล้ำ WCW ที่ถือว่าคู่แข่งสมาคมกีฬามวยปล้ำอาชีพตัวฉกาจเบียดด้านเรตติ้งกับ WWF นั่นเอง
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/rodman-2-jpg.webp)
ช่วงปีดังกล่าวนั้น เขาเป็นนักกีฬาระดับมหาชนไปเรียบร้อยแล้ว ด้วยการเป็นแชมป์ NBA 3 สมัย ให้กับทีม Detroid Pistons และ Chicago Bulls และเป็น 1 ในสุดยอดตัวรีบาวน์ในประวัติศาสตร์ NBA แต่คนส่วนใหญ่ทั้งแฟนบาสเกตบอลและคนทั่วไปจดจำเขาได้ในฐานะคนสร้างสีสันให้กับวงการยัดห่วงด้วยคาแรคเตอร์ที่ทั้งเกรียนและซ่าไม่ยอมใคร ทรงผมสีฉูดฉาดเปลี่ยนไปทุกๆครั้งที่เจอ สไตล์การแต่งตัวดั่ง rockstar และการปาร์ตี้ลืมโลกไม่คิดหน้าคิดหลัง เขาเองยังมี nickname สุดเท่อย่าง “The Worm” ตัวหนอนผู้สร้างสีสันให้กับวงการบาสเกตบอล
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/dennis-rodman-1-jpeg.webp)
ปี 1990’s เป็นช่วงที่การแข่งขันแย่งเรตติ้งระหว่างสองสมาคมมวยปล้ำอาชีพนั้นเป็นไปอย่างดุเดือนเลือดสาด ซึ่งถึงแม้ว่า WWF กำลังสร้างฐานลูกค้าที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัยมากขึ้นตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน คนแก่ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย และมีซุปเปอร์สตาร์กำลังแจ้งเกิดหลากหลายคนอย่าง The Rock, Stone Cold หรือแม้กระทั่ง The Generation X, Kane, Undertaker ก็ตาม แต่ผู้ชมทั้งโลกส่วนใหญ่เทใจและพร้อมจ่ายเงินให้กับเสื้อ nWo ทำสัญญาณนิ้ว “4 life” ให้กับแก๊งขบถ nWo มากกว่า
ถึงแม้ว่าตามบทที่วางไว้โดย WCW นั้นต้องการให้ nWo เป็นฝ่ายอธรรมสุดโกงที่สมควรโดนเกลียดเข้าไส้และต้องการฮีโร่ออกมาจัดการให้ได้ แต่ไปๆมาๆ ด้วยความ real หรือการเป็นตัวตึงแต่โคตรเท่และเกลียดไม่ลง ทำให้คนทั้งโลกหันมาติดตามและยอมเป็นแฟนติดตามฝ่ายตัวโกงกันซะอย่างงั้น!
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/nwo-1z8pkzn_crop_exact-jpg.webp)
ซึ่งถือว่าเป็นจังหวะที่ดีมากๆ ในสมัยที่มวยปล้ำอาชีพเริ่มได้รับการยอมรับจากคนทั่วไป และมีหลายรายการชั้นนำในอเมริกาพร้อมที่จะ collab ไม่ว่าจะเป็น “The Tonight Show” และ “Saturday Night Live” ที่นำนักมวยปล้ำจาก nWo มาออกรายการ ถือว่าเป็นวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ที่ร้างกาจมากโดยผู้บริหาร WCW สร้างเรตติ้งและการรับรู้อย่างเป็นวงกว้างให้กับ WCW (มีถึงขนาด Robocop ออกมาช่วย Sting นักมวยปล้ำแมงป่องขวัญใจแฟนๆ ที่ถูกขังในกรงเหล็ก โดย Robocop ถึงขนาดใช้มือเปล่ากระชากประตูกรงเหล็กหลุดออกมาอย่างง่ายดายเลยทีเดียว เท่สุดๆเลย)
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/stingrobocop_1-1024x576.webp)
จาก documentary “The Last Dance” ของตำนานตลอดกาล Michael Jordan ได้มีการกล่าวถึงการใช้ชีวิตของ Dennis Rodman ว่า “ชีวิตที่สร้างความสุขมากที่สุดคือการไม่สนอะไรเลยแม้ว่าจะเกิดผลกระทบอะไรตามมาหลังจากนี้ก็ตาม” โดยเขาได้สิทธิ์ลาพักร้อน 48 ชั่วโมง ในช่วงครึ่งฤดูกาลของ NBA (แต่พี่แกเล่นบินออกจาก NBA Finals ไป WCW Monday Nitro โดยหายไปถึง 4 วัน!!! จน Michael Jordan ถึงขนาดต้องเป็นคนที่บินมากล่อมและรับตัวกลับไปแข่งรอบ final ด้วยตัวเขาเองเลยทีเดียว)
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/DennisRodman_NWO_DigitalPromo_Still2--1024x576.webp)
Rodman เดบิวใน WCW เดือนมีนาคม 1997 โดยไปเข้าร่วมกับแก็ง nWo ซึ่งคาแรคเตอร์ของเขาถือว่าเข้ากับกลุ่มคนโฉดนี้เป๊ะๆ โดยเขาไม่ได้แค่มาเข้าร่วมแค่โปรโมททางการตลาดอย่างเดียว แต่ Rodman ยอมที่จะออกทีวีและปล้ำจริงจังเลยทีเดียวตั้งแต่ช่วง 1997 ถึง 2000 โดยศึกแรกคือ Bash at the Beach 1997 ที่เขาทีมอัพกับ Hollywood Hogan เจอกับ The Giant และ Lex Luger
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/dennis-rodman-1024x683.webp)
ช่วงเวลาแห่งความ(เกือบ)ซวยของทีม Chicago Bulls คือช่วงกลางปี 1998 ซึ่งเป็นช่วงที่ทีมอยู่ระหว่างล่าแชมป์สมัยที่ 6 อยู่นั้นก็มีข่าวคราวที่ทำให้แฟนๆกระทิงกังวลใจอยู่ไม่น้อยว่าทีมสุดเก่ง ณ ขณะนี้มีโอกาสที่จะทีมแตกจากหลากหลายปัจจัย แต่ Rodman ดันไปทำให้สถานการณ์ดูแย่เข้าไปอีก
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/rodmanwcwbash-1024x576.webp)
คืนวันที่ 8 มิถุนายน 1998 Rodman ที่เพิ่งจะแข่งเกมที่ 3 ของ Finals กับทีม Utah Jazz และทีมกระทิงแห่งชิคาโก้ก็ตั้งความหวังว่าจะจัดการทีมคู่แข่ง 2 ปีซ้อนให้ได้ ซึ่ง Rodman เล่นดีสุดๆด้วยการทำ 6 รีบาวน์ใน 22 นาที จัดการ Utah ได้ 96-54 เก็บชัยชนะรวม 2-1 เกมนั้น…
เขาก็หนีจากการฝึกซ้อมไปดื้อๆ บินไปศึก WCW Monday Nitro ที่รัฐมิชิแกน Hulk Hogan กล่าวว่า Phil Jackson เฮดโค้ชทีม Chicago Bulls โทรหาถึงเขาสายแทบไหม้ แต่ Rodman ก็ตอบง่ายๆว่า “ผมไม่อยากกลับไปนี่หว่า”
ในคืนนั้นจบลงด้วยการที่ Rodman คว้าเก้าอี้เหล็กไปฟาดใส่หลังของ Diamond Dallas Page และเป็นการต่อยอดศึกแท็กทีมที่จะเกิดขึ้นต่อไปในเดือนกรกฎาคมศึก Bash at the Beach
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/Dennis-Rodman-Bulls-1024x815.webp)
ที่ฮากว่านั้นคือแมทช์แท็กทีมที่จะเจอกับ DDP นั้นเจ้าพ่อท่าไม้ตาย Diamond Cutter กลับเลือกคู่หู Karl Malone นักบาสชื่อดังทีม Utah Jazz มาเป็นคู่หู ทีมที่อยู่ระหว่างห้ำหั่นกับ Chicago Bulls นั่นเอง….
หลังจากศึก WCW เขากลับมาเข้าร่วมทีมเพื่อเล่น Game 4 ต่อ และกลับเป็นเกมที่เขาเล่นได้อย่างดีที่สุดในปี โดย Bull ชนะ 86-82 เก็บชัยชนะรวม 3-1 series โดย Rodman เล่นไป 29 นาที ทำได้ 14 รีบาวน์
ซึ่งท้ายสุดทีมก็เป็นแชมป์ในปีนั้น โดยระหว่างฉลองชัยชนะ Rodman ก็แอบมี tie-in เอาเสื้อ nWo มาวางไว้ที่ตักอีกด้วย
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/dennis-rodman-karl-jpg.webp)
หนึ่งเดือนต่อมา Rodman กับ Hogan ก็เก็บชัยชนะเหนือ Malone และ DDP ศึก Bash at the Beach ที่สามารถทำยอด pay-per-view ได้สูงสุดในปี
ในอาชีพนักมวยปล้ำ Rodman ปล้ำรวมทั้งหมด 4 แมทช์ โดย 2 แมทช์แรกตามที่กล่าวก่อนหน้านี้ และอีก 2 แมทช์ที่เหลือเป็นการเจอกับ Randy Savage ปี 1999 ศึก WCW Road Wild และอีกครั้งในปี 2000 ในสมาคมเล็กๆในประเทศออสเตรเลียเจอกับ Curt “Mr. Perfect” Hennig
![](https://fistfightdrama.com/wp-content/uploads/2023/09/rodman-hogan.webp)
เขาเลิกปล้ำมวยไปจนกระทั่งได้มีการปล้ำใน reality show ของ Hulk Hogan ชื่อ “Hulk Hogan’s Celebrity Championship Wrestling” ในปี 2008
แน่นอนว่า Dennis Rodman ไม่ใช่นักมวยปล้ำที่เก่งกาจอะไร เทคนิคก็ไม่ได้ดี แต่สิ่งที่เขามีคือ เขาเป็นคนที่มีความเป็นเอนเตอร์เทนสูง มีคาแรคเตอร์ที่น่าติดตามไม่ว่าจะในเรื่องดีหรือไม่ดีก็ตาม
ในขณะที่นักกีฬาหรือนักแสดงหลายๆคนต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในวงการมวยปล้ำก็ต่อเมื่อชื่อเสียงพวกเขากำลังอยู่ในช่วงขาลงเพื่อหาพื้นที่โปรโมทตัวเอง แต่ Rodman กลับเป็นคนที่เข้ามาในวงการมวยปล้ำในขณะที่เขามีชื่อเสียงโด่งดังสูงสุดจากการคว้าแชมป์ NBA กับ Chicago Bulls