vince mcmahon

บทส่งท้ายตำนานบิ๊กบอสแห่ง WWE: เมื่อ Vince mcmahon ประกาศวางมือ(?)หลังเผชิญมรสุมข่าวฉาว


สรุปใจความสำคัญ

  • CEO ตลอดกาลของ WWE อย่าง Vince McMahon ประกาศเกษียณอายุเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2022 จากข้อกล่าวหาในการประพฤติตัวไม่เหมาะสม
  • Vince เป็นยอด CEO แห่ง WWF/WWE มายาวนานกว่า 40 ปี หลังจากได้รับการสืบทอดกิจการจากคุณพ่อ
  • สรุปเหตุการณ์และอัตชีวประวัติของ Vince ที่สร้างธุรกิจและอาณาจักรมวยปล้ำอาชีพตลอดเส้นทางในฐานะผู้บริหารสูงสุด
  • อย่างไรก็ตามข่าวล่าสุด ณ เดือนมกราคม 2023 Vince ที่ลาออกไปเกือบครึ่งปีได้หวนกลับมาอีกครั้งในฐานะประธานบอร์ด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขายหุ้นบริษัทให้กับนักลงทุนรายอื่น!   

Vince McMahon ผู้ซึ่งเกิดมาเพื่อบริหารธุรกิจมวยปล้ำอาชีพอย่างแท้จริง

vince mcmahon

Vince เติบโตในรัฐ North Carolina โดยได้แบบอย่างจากคุณพ่อ Vincent McMahon บุคคลที่ก่อตั้งสมาคมมวยปล้ำชื่อ Capitol Wrestling Co. ร่วมกันกับคุณตา Jesse ตั้งแต่ปี 1953 

ซึ่ง Vince เองเป็นคนที่มีการศึกษาที่ดี จบคณะบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัย East Carolina ก่อนที่จะมาช่วยเหลือธุรกิจของคุณพ่อ

Vince ยกระดับธุรกิจจากแค่สมาคมมวยปล้ำระดับท้องถิ่นสู่ระดับโลก

vince mcmahon

ในสมัยก่อนสมาคมวยปล้ำจะมีหลากหลายมากมายกระจายไปทั่วสหรัฐอเมริกา แต่ความโด่งดังและการติดตามของแฟนๆนั้นจะกระจุกตัวอยู่ตามแต่ละพื้นที่หรือรัฐที่สมาคมนั้นๆครองฐานแฟนคลับ 

แต่หลังจากที่ Vince ได้สืบทอดธุรกิจต่อจากคุณพ่อในปี 1982 นั้นเขาสามารถพา WWE เข้าไปสู่สมาคมอันดับ 1 ของประเทศผ่านช่องทาง TV และการทำ live events เดินสายปล้ำทัวร์ทั่วประเทศ รวมถึงการได้สิทธิ์ขาย Pay-Per-View มากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก

WWE ได้เปลี่ยนโครงสร้างการทำธุรกิจมวยปล้ำอย่างสิ้นเชิง จากแต่ก่อนมวยปล้ำจะให้ความสำคัญกับเทคนิคและความตื่นเต้นของการปล้ำเป็นส่วนใหญ่ แต่ WWE ได้เริ่มใช้กลยุทธ์ในการสร้าง “Scripted matches” หรือแมทช์ที่ได้มีการร้อยเรียงเนื้อเรื่องไว้แล้ว สร้างดราม่า สร้างสถานการณ์ สร้างฝ่ายธรรมะฝ่ายอธรรมอย่างชัดเจน เพื่อจับกลุ่มฐานแฟนคลับที่พร้อมใจที่จะจ่ายค่า Pay-Per-View (ต่างประเทศเขาจะต้องจ่ายส่วนเพิ่มต่างหากสำหรับศึกสำคัญ) รวมถึงบริการใหม่ในรูปแบบของ Streaming ซึ่งปี 2018 นั้น Steaming มียอดคน subscriber ถึง 1.8 ล้านคน เป็นอันดับ 11 ของบริการ Streaming ที่เยอะที่สุดในประเทศเลยทีเดียว 

Vince กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในการบริหาร WWE

สไตล์การบริหารของป๋านั้นเป็นที่เลื่องลือว่า “โหด, Old-school, และมีอำนาจตัดสินเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว” นอกเหนือจากการบริหารกิจการหลังบ้านแล้วนั้น หน้าบ้านเขาก็มีบทในรูปแบบของ “บอสผู้น่ารังเกียจที่มีอำนาจผูกขาดและข่มเหงคนตัวเล็กกว่าโดยต้องการเพียงแค่อยากเห็นคนอื่นเป็นทุกข์ทรมาน” และแน่นอนบทบาทหน้าฉากแทบไม่แตกต่างบทบาทที่แท้จริงหลังฉาก

เขาโดนต่อว่าจากการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมต่อนักมวยปล้ำในสังกัด

รายการ Last Week Tonight ในปี 2019 เผยว่านักมวยปล้ำ WWE มีโอกาสเสียชีวิตมากกว่านักกีฬา NFL เสียอีก จากเปอร์เซ็นต์ของการบาดเจ็บรุนแรงที่สมอง โดยผู้ดำเนินรายการ Oliver เผยว่า WWE ไม่มีการรับประกันเยียวยาในด้านประกันสุขภาพ เงินเกษียณอายุ เงินชดเชยวันลาหยุด หรือเงินชดเชยถ้าเกิดได้รับอุบัติเหตุ มีนักมวยปล้ำหลายคนเปิดเผยว่าพวกเขาหยุดปล้ำไม่ได้เพราะประเด็นเรื่องรายได้

ยิ่งช่วงในสถานการณ์โควิด 19 ที่ผ่านมา หลายๆกีฬาได้มีการปิดตัวลงชั่วคราวเพราะความเสี่ยงต่อการติดของโรคติดต่อนี้ แต่ WWE เลือกที่จะถ่ายทอดสดต่อไป โดยมีการปรับตามสถานการณ์ให้เหมาะสมเช่น ยังมีมวยปล้ำทุกอาทิตย์แต่ไม่มีผู้เข้าชม, มีการจำกัดพนักงาน staff ซึ่งจริงๆก็ถือว่ามีการปรับตัวได้อย่างเหมาะสมระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์นี้ก็มีพนักงาน WWE หลายคนติดโควิด

Connection ชั้นยอด! เป็นเพื่อนสนิทกับอดีตประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา Donald Trump

สองคนนี้เป็นเพื่อนกันมายาวนาน ถึงกับเคยออกทีวีด้วยกันในปี 2007 และจัดศึก Wrestlemania ที่ต่างฝ่ายต้องมาปะทะกัน โดยเป็น Vince ที่พ่ายแพ้และตอ้งถูกโกนหัวประจานตาม script

อย่างไรก็ตาม connection ทางธุรกิจนี้ยังส่งผลให้ Vince และภรรยาของเขา Linda มอบเงินสนับสนุนเลือกตั้งหาเสียงให้กับ Trump ในปี 2016 หลายล้านเหรียญเลยทีเดียว และผลจากการเอื้อยประโยชน์ซึ่งกันและกันก็ทำให้ Linda ได้ตำแหน่งเป็น admin ของ Small Business Administration จนกระทั่งปี 2019 

ปลุกปั้นลูกๆให้เข้ามาช่วยบริหารธุรกิจ WWE

แฟนๆ มวยปล้ำคงจะรู้กันอยู่แล้วว่าลูกทั้ง 2 ของ Vince ได้แก่ Shane McMahon และ Stephanie McMahon ได้แจ้งเกิดใน WWE ตั้งแต่เกือบ 20 ปีที่แล้วในฐานะตัวละครที่ออกมาสร้างสีสันทั้งในบทบาทธรรมะและอธรรม (ส่วนมากจะได้บทคนเลวมากกว่าคนดี) โดยปัจจุบัน Stephanie ก็ได้แต่งงานกับเด็กปั้น WWE อย่าง Paul “Triple H” Leveque ที่ภายหลังเข้ามาช่วยบริหารงานและสร้างความแตกต่างให้กับ WWE ได้เป็นอย่างดี

ไม่ได้สำเร็จทุกอย่างซักทีเดียว.... XFL พังไม่เป็นท่าหมดเงินกว่า 200 ล้านเหรียญ

ปี 2001 Vince อยากที่จะทำธุรกิจกีฬาใหม่ และเขาก็ได้ก่อตั้งสมาคมอเมริกันฟุตบอลชื่อ XFL เพื่อมาต่อกรกับเจ้าพ่อ NFL โดยมี theme ที่โฟกัสไปที่ “ความดิบโหดและเซ็กซี่มากกว่า NFL” อย่างไรก็ตามเปิดได้แค่ season เดียวก็เจ๊งไม่เป็นท่า

พอเริ่มเก็บประสบการณ์มากขึ้น 20 ปีผ่านไป ปี 2020 เขาก็ปัดฝุ่นเอา XFL กลับมาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันเริ่ม season 1 ก็ดันมาโดนวิกฤติโควิด 19 ซ้ำรอยอีกและต้องยื่นล้มละลายทันทีทั้งๆที่ยังขายไม่ได้เลย และต้องเอาพนักงาน XFL ทั้งหมดออกโดยไม่สมัครใจ

อย่างไรก็ตาม พระเอกขี่ม้าขาวลูกรักตลอดกาลอย่าง Dwayne “The Rock” Johnson ร่วมกันกับอดีตภรรยาและหุ้นส่วนธุรกิจช่วยลงขันประมูลซื้อกิจการกลับมาในราคา 15 ล้านเหรียญ และตั้งใจว่าจะทำการเปิด XFL อีกครั้งในปีหน้า

วิกฤติโควิด 19 เล่นงาน WWE อย่างหนัก ทำมูลค่าความมั่งคั่งของ Vince ร่วงอย่างหนัก

ผลกระทบจากโรคระบาดทำลายธุรกิจต่างๆทั่วโลก โดยหุ้น WWE เองก็โดนอย่างหนักมูลค่าร่วงมากกว่า 40% เพราะไม่สาารถทำยอดจากการขายตั๋วเข้าชมได้ และผู้ชมเองนอกเหนือจากการออกไปดูไม่ได้นั้นก็ยังรู้สึกว่าการดูผ่านทีวีอาทิตย์ละถึง 7 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว 

ความมั่งคั่งของ Vince ร่วงหนักถึงขนาดหลุดจากอันดับ Forbes 400 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยประมาณการว่าจากเดิมที่ความมั่งคั่งในปี 2019 ที่ 3.2 พันล้านบาท หรือราว 1.1 แสนล้านบาท ร่วงเหลือในปี 2020 ที่ 1.7 พันล้านบาท หรือ 6 หมื่นล้านบาท

ไล่ออก! ไล่ออก! ไล่ออก!

เดือนเมษายน 2020 หลังจากโรคระบาดระดับโลกโจมตีนั้น WWE ได้ปล่อยนักมวยปล้ำออกไป 21 คน และอีกหลายคนที่ทำงานเบื้องหลังทั้ง staff, นักเขียนบท, และพนักงาน back office 

พฤษภาคม 2021 บริษัทก็ได้ layoffs พนักงานเพิ่มอีกมากมาย ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เราเห็นนักมวยปล้ำที่มีชื่อเสียงหลายคนต้องหลุดจากสถานะลูกจ้างเพื่อพยุงบริษัทด้วยการลดต้นทุนนั่นเอง  

ยุติการให้บริการ Streaming "WWE Network" ในปี 2021

WWE Network เคยเป็นธุรกิจอันดับ 1 ที่ Vince ตั้งใจจะปลุกปั้น โดยเคยสามารถขายสิทธิ์นี้สัญญา 5 ปี มูลค่า 1 พันล้านเหรียญเลยทีเดียว ซึ่งตอนเปิดตัวในปี 2014 นั้นประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น มีคนกด subscribe มากถึง 1.6 ล้านบัญชีก่อนที่จะถูกบังคับให้ปิดตัวลงจากผลกระทบโควิด 19 

คู่แข่งสมน้ำสมเนื้อถือกำเนิดขึ้นในยุควิกฤต

ALL Elite Wrestling (AEW) ม้ามืดที่มีลูกเศรษฐีแฟนพันธุ์แท้มวยปล้ำ Tony Khan ได้สร้างชื่อเสียงและเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงโควิดปี 2019 เป็นสมาคมใหม่ที่มีฐานแฟนคลับติดตามอย่างสูงและพร้อมจะจ่ายเงินให้กับคู่แข่ง WWE รายนี้อย่างสมัครใจ และเมื่อดู rating ในช่วงหลายๆอาทิตย์ติดต่อกันนั้น AEW ยังสามารถเอาชนะสมาคมลูก WWE อย่าง NXT ได้อย่างสิ้นเชิง จนถึงกับขั้นที่ว่า WWE ต้องย้ายการฉาย NXT หนีไม่ให้ตรงวันกับ AEW เลยทีเดียว 

โดยหนึ่งในกลยุทธ์ของ AEW คือการปั้นนักมวยปล้ำหน้าใหม่ให้เป็นดาว การจับตำนานนักมวยปล้ำให้เข้ามาร่วมงานอย่าง อาทิ Sting, Chris Jericho, Jon Moxley แขกรับเชิญอย่าง Mike Tyson หรือ Junior Dos Santos อดีตแชมป์รุ่นเฮวี่เวทของ UFC รวมถึงการดูดนักมวยปล้ำจาก WWE หลายคน รวมถึงตำนานนักมวยปล้ำชาวชิคาโก้อย่าง CM Punk ให้ย้อนกลับมาปล้ำได้อีกด้วย

ข่าวฉาวรั่ว! เริ่มมีการสืบค้นความจริง

เมษายน 2022 คณะกรรมการ WWE ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับเงินปิดปาก 3 ล้านเหรียญที่จ่ายให้กับอดีตพนักงาน WWE ที่มีการกล่าวหาเรื่องชู้สาวกับ Vince ซึ่งถึงแม้ข้อตกลงการจ่ายเงินครั้งนี้จะหมายรวมถึงการห้ามหารือต่างๆใดๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแต่เรื่องก็ยังแดงจนได้ ซึ่งก็เจอความจริงที่ว่าเคยมีเหตุการณ์ชู้สาวเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้อีกด้วย 

โดย Vince McMahon ก็ประกาศขอถอนตัวจากบทบาท CEO และ chairman และแต่งตั้งให้ลูกสาว Stephanie เป็น CEO ชั่วคราว

ปิดฉากในฐานะ CEO ที่บริหารจัดการและปลุกปั้น WWE มากกว่า 40 ปี

ผมกำลังจะย่างเข้า 77 ปี ผมรู้สึกว่ามันถึงเวลาที่ต้องวางมือจากการเป็น CEO และ Chairman ของ WWE ในช่วงเวลาที่ผ่านมาถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสให้สมาคมรับใช้ สร้างความสุข สร้างแรงบันดาลใจ สร้างความสนุกให้กับพวกคุณทุกคน ผมอยากจะขอขอบคุณครอบครัวของผมที่ช่วยเป็นแรงผลักดันให้พวกเราสำเร็จ และผมอยากจะขอบคุณ Superstars ทั้งหมดตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันที่ช่วยกันสร้างสมาคมของเราขึ้นมา

การลาออกครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นการเร่งรีบอีกทางหนึ่งของการสืบสวนซึ่ง WWE พบว่าตลอดเวลากว่า 16 ปี คาดว่าจะมีเงินจ่ายออกที่ไม่สมควรมากถึง 14.6 ล้านเหรียญ

ปัจจุบัน Stephanie McMahon และ Nick Khan ได้ถูกเสนอชื่อร่วมให้เป็น co-CEOs และ Triple H เองที่ได้มีโอกาสกลับมาจากการผ่าตัดหัวใจในช่วงความเป็นความตายของเขาในบทบาทของ CCO (Chief Content Officer) เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและคงอยู่ของ WWE ต่อไป….

อย่างไรก็ตามข่าวล่าสุด ณ เดือนมกราคม 2023 นั้นปรากฏว่า Vince ได้หวนกลับมาบริหารในฐานะประธาน Board WWE หรือเป็นตำแหน่งสูงสุดของบริษัทอีกครั้ง และลูกสาว Steph กลับตัดสินใจลาออกจากการเป็น CEO โดยมีเบื้องหลังว่าพ่อลูกระหองระแหงกันหนักมากเพราะ Vince ต้องการกลับมาเพื่อขายหุ้นบริษัทให้กับนักลงทุนนั่งเอง จึงทำให้มหากาพย์เรื่องราวสุดยุ่งเหยิงนี้ยังคงดำเนินต่อไป


Share this post

More articles

feedback is god!

For better contents to you.