พวกเราแฟนๆศิลปะการต่อสู้อาจจะต้องกัดฟันแล้วยอมรับไปโดยปริยายว่า Jake Paul ยูทูบเบอร์และ influencer ชื่อดังจากอเมริกานั้นแน่จริงๆ ถึงแม้ว่าในใจลึกๆก็ยอมรับกันไม่ได้ที่ “ไอ้เด็กเกรียนนี่มันกล้ามาท้านักสู้ตัวจริงเสียงจริง และดันทะลึ่งชกชนะอีก” เราในฐานะคนดูก็จะหาข้ออ้างต่างๆนานาไม่ว่าจะเป็น “แม่งต่อยกับนักมวยปล้ำ” หรือ “นักสู้กลุ่มนี้หมดน้ำยาไปนานแล้ว”
แต่เชื่อเถอะครับว่ามันเป็นแค่ข้ออ้างที่ทำให้เรารู้สึกไม่ยอมรับ Jake Paul เพราะก้นบึ้งหัวใจเราก็ยังรับรู้ได้ว่านักสู้ MMA ทั้ง Ben Askren และ Tyron Woodley นั้นไม่ใช่นักสู้ไก่กา แต่เป็นถึงอดีต undefeated และแชมป์ของสถาบันก้องโลกอย่าง UFC และ ONE FC มาแล้ว
ทว่า Jake Paul นั้นก่อนที่จะมาต่อยมวยสากล ปากสุนัขไล่ท้าตีท้าต่อยคนอื่นไปทั่วโดยเฉพาะกับนักสู้ UFC นั้น จริงๆแล้วเขาเป็นคนที่ถือว่าดังระเบิดมาก่อนหน้านี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว วันนี้เราจะมา recap ให้ทุกท่านทราบว่ากว่าจะเป็นเด็กเกรียนสุดแกร่ง เขาผ่านอะไรมาบ้าง…
พี่น้องสาย Influencer ตั้งแต่เด็กๆ กับกลุ่ม followers มากถึง 5.3 ล้านคน
Jake Paul (เกิดปี 1997 ปัจจุบันอายุ 24) และพี่ชาย Logan Paul (เกิดปี 1995) สร้างชื่อเสียงในวงการโซเชียลมีเดียมาเกือบ 10 ปีเลยทีเดียว แรกเริ่มทั้งคู่ใช้สื่อโซเชียลที่ชื่อ Vine ซึ่งเป็น Video application ที่แข่งขันกับ Snapchat และ Instagram ในการทำ content ฮาๆ ล้อเลียนและแกล้งคนต่างๆเหมือนวัยรุ่นทั่วไป จนกระทั่ง Vine ปิดตัวลง แต่ด้วยการที่มีผู้ติดตามสูงมากทำให้ทั้งคู่หันไปใช้ช่องทาง Youtube ต่อในการสร้าง content โดยมีผู้ติดตามมากถึง 5.3 ล้านคน และมียอด views มากถึง 2 พันล้านครั้ง!!
ดังหนักกว่าเก่าจากการเซ็นสัญญากับช่อง Disney กลายเป็น Celebrity วัยรุ่นชื่อดัง
จากฐานแฟนคลับหนาแน่นของ Jake ไปเตะตาโปรดิวเซอร์ช่อง Disney Channel เขาเลยได้รับการเซ็นสัญญาเล่นซีรีย์แนวตลกโปกฮาชื่อ Bizaardvark รวม 2 ซีซั่น แต่ Jake ดันทำตัวเองด้วยการทำให้เพื่อนบ้านข้างเคียงเดือดร้อน จากการอัดคลิปแกล้งคน จัดงานปาร์ตี้ระดมคนกินเมาเละเทะอย่างหนัก รวมถึง จุดไฟในสระน้ำส่วนตัว หรือแข่งมอเตอร์ไซด์ในหมู่บ้านส่งเสียงดังน่ารำคาญไปทั่ว จึงเป็นเหตุให้ไม่ได้ไปต่อกับช่อง Disney นั่นเอง
หันไปทำเพลง และก็ยังโด่งดังอีก!
ถ้าจะพูดถึงพรสวรรค์ พี่น้องคู่นี้น่าจะมีอยู่เต็มเปี่ยมเลยทีเดียว ตอน Jake อายุได้ 20 เขาก็ได้ก่อตั้งบริษัท Team 10 ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท โดยทำธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการด้านการตลาดของเหล่า influencer, เป็น creative agency และทำ content เกี่ยวกับวัยรุ่น
โดย Paul เองได้ส่ง Single เพลงชื่อ “It’s Everyday Bro“ featuring Team 10 มียอดวิวสูงถึง 70 ล้านวิวภายในระยะเวลาเพียงเดือนเดียว และที่ฮากว่าคือมียอด “คนกด dislike” มากที่สุดสูงเป็นอันดับ 3 ของประวัติศาสตร์ Youtube (แต่เข้าไปดูล่าสุด video นี้เหมือนจะปิด dislike ออกไป และมียอดกด like ถึง 3 ล้าน like ผมเดาว่าทีมงานแม่งจ่ายเงินปั่น like แหงเลย)
อย่างไรก็ตามเพลงนี้มองอีกมุมนึงคือประสบความสำเร็จจัดๆ ด้วยการเดบิวแล้วขึ้นไปอยู่ถึงอันดับ 91 ของ Billboard Hot 100 และได้รับ certified Platinum Record อีกด้วย ซึ่ง Paul ได้คงทำเพลงและปล่อย single ออกมาเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน
ปี 2018 “ไอ้เด็กมีปัญหา: The Problem Child” ถือกำเนิดขึ้น
Youtuber ฝั่งอังกฤษนาม KSI และ Joe Weller มีการจัดมวยสากลต่อยกัน ใครจะไปคาดคิดว่าเอาคนฝีมือง่อยๆมาอัดกันกลับสามารถเรียกยอดวิวได้ถึง 100 ล้านวิวทั่วโลก ซึ่งKSI ที่ชนะไปนั้นได้ไปท้าตัวพี่ชาย Logan Paul มาต่อยกันในไฟท์ถัดไป
ซึ่ง Jake Paul นั้นก็ได้ต่อยใน undercard กับน้องชายของ KSI ชื่อ Deji Olatunji ซึ่งถือว่าเป็นไฟท์เดบิวของ Jake และเขาก็ตั้งฉายาให้ตัวเองว่า “The Problem Child” นั่นเอง ซึ่งไฟท์ดังกล่าวต่อยในกฏมวยสมัครเล่น และเป็น Jake ที่สามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ด้วย technical knockout ในยกที่ 5
ไฟท์ถัดไป Jake ได้เทรินโปรเป็นนักมวยอาชีพ แต่ก็ยังเลือกที่จะต่อยกับ Youtuber อีกคนชื่อ AnEsonGib ซึ่ง Jake สามารถ TKO Gib ด้วยเวลาเพียง 2 นาทีนิดๆ เท่านั้น….. ตำนานของสุดยอดนักมวยอาชีพคนใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้นแล้ว!
อับอายขายขี้หน้าชั่วลูกชั่วหลานของอดีตนักบาส NBA ชื่อดัง
Nate Robinson อดีตนักบาส NBA ตำแหน่ง point guard ทีม New York Knicks, Boston Celtics, Chicago Bulls และอีกหลายทีม และยังเป็นคนแรกที่ได้แชมป์ slam dunk champion ถึง 3 ครั้ง เดบิวมวยสากลเจอกับ Jake ซึ่งเป็นคู่ undercard ของไฟท์ที่มีคู่เอกระหว่าง Mike Tyson vs Roy Jones Jr. จบลงในยก 2 ด้วยเวลา 1 นาทีครึ่ง โดยเป็นฝ่าย Jake ที่ปล่อยหมัดฮุคขวาใส่ Robinson เต็มๆ ลงไปนอนนับดาวอย่างสงบและถูกโซเชียลสังคมแห่งการ bully เอาไปทำเป็น meme แบบนับจำนวนไม่ได้เต็ม google search engine ไปตลอดกาล
ประกาศศักดาท้ารบกับวงการ MMA โดย Ben Askren ขอรับหน้าที่สั่งสอนพวก wanna be fighter ให้ชาวโลกเห็น
หลังจากที่ Jake Paul น็อคนักบาส NBA เขาก็ประกาศท้ารบเต็มรูปแบบกับนักสู้ MMA ที่มีชื่อเสียงทั้งหลาย ตั้งแต่ Conor McGregor, Nate Diaz, Dillon Danis, Jorge Mavidal และ Ben Askren โดยอดีตนักสู้ MMA แชมป์ Bellator และ One FC และนักมวยปล้ำโอลิมปิคปี 2008 Ben Askren ที่เพิ่งประกาศแขวนนวมรอบ 2 ได้ไม่นาน (หลังจากแพ้ 2 นัดรวด เป็น highlight reel แพ้ KO เร็วที่สุดใน UFC โดน Jorge Masvidal สปรินท์กระโดดเข่าใส่คางหลับสบาย และโดยพ่อหมดจอมจับล็อค Demian Maia ใส่ rear-naked choke ในยก 3) ขอรับคำท้ายภายใต้กฏมวยสากล
มวยสากล…. ดูเป็นกีฬาที่ง่าย คือผมมั่นใจมากว่าผมสู้ได้ (ถึงแม้ว่าเพิ่งจะผ่าตัดสะโพกมา) กีฬานี้ทุ่มไม่ได้ จับใส่ leg locks ไม่ได้ ผมคิดว่ามันค่อนข้างปลอดภัยสำหรับผม
Jake Paul สุดยอดจริงๆ ที่ขนาด Dana White (ที่ปกติไม่ชอบขี้หน้า Ben Askren) ยังต้องหันมาชอบผมเลย ถ้าเราได้เจอกันเมื่อไหร่สงสัยความห่างคะแนนอาจจะถึง 10 ต่อ 6 ด้วยซ้ำซึ่งแทบไม่เคยเกิดขึ้นให้เห็นเลย Paul มันแบบพยายามจหาเงินง่ายๆ หาไวๆ ด้วยฝีปากห่วยๆ เพื่อตอบสนองฐานแฟนคลับอายุ 13 ขวบของมันอะ จะสู้กับผมหนะไปเอาเวลาขัดเกลาฝีมือก่อนที่จะมา trash talk เถอะ
Jake ตอบโต้กลับว่าเขาเป็นคนที่ทำให้ Askren สามารถลืมตาอ้าปากได้ กับเช็คก้อนโตที่ตลอดอาชีพ MMA ไม่มีทางทำได้
ผมเลือกที่จะสู้กับใครก็ได้ และคนที่ได้รับโชคนั้นจะกลายเป็น super start ทันที แต่แค่ 15 นาทีนะเพราะหลังจากโดนผมน็อคมันก็จะถูกลืมไปโดยปริยาย
และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น สายแช่งคนดูวงการ MMA ถึงกับเงียบกริ๊บเมื่อ Jake ยิง looping right hand ใส่ขมับ Ben Askren ลงไปนอนงงกับพื้นและพยายามยืนขึ้นมาก่อนนับ 10 แต่กรรมการจับ TKO ให้ Jake ชนะในยกที่ 1 ใช้เวลาเพียง 2 นาที โซเชียลถึงกับถล่มกันยับว่า “เฮ้ย ไอ้ Ben มันล้มมวยป่าวว่ะ ปาหี่ชิบหาย??”
Jake Paul โม้ใน IG ว่าตัวเองทำเงินได้จากไฟท์นี้ถึง 75 ล้านเหรียญ (2,475 ล้านบาท) จากยอด PPV ที่สูงถึง 1.5 ล้าน PPV ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจริงหรือโม้กันแน่เพราะค่าตัวที่มีการเปิดเผยนั้น Jake ได้เงิน 690,000 เหรียญ หรือราว 23 ล้านบาทเท่านั้น
Here comes a new challenger! Tyron Woodley ขอแก้แค้นแทนเพื่อนซี้!
หลังจากล่อ Ben Askren ล่วงแบบช็อคโลกในยกที่ 1 Jake Paul กับสถิติมวยสากลไร้พ่าย 3-0 ก็ได้เซ็นสัญญาไฟท์กับ Showtime Sports ที่มีข่าวลือตัวเลขค่าเหนื่อยถึง 8 หลัก นั้น Tyron “The Chosen One” Woodley อดีตแชมป์รุ่น Welterweight ซึ่งอยู่ในช่วงขาลงในอาชีพ MMA แพ้ 4 ไฟท์ติดและก็หมดสัญญากับ UFC พอดี ก็ออกมาท้าสู้เพื่อแก้แค้นให้กับทีมเมทของเขากับยูทูบเบอร์ขวัญใจเด็กแนวหลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็มีปัญหาท้าทายกันใน locker room กับทีม Jake Paul ช่วงก่อน main event ที่ Paul จะเจอกับ Ben Askren
Tyron Woodley ซึ่งมีจุดขายที่ความทนทานและหมัดอันหนักหน่วงนั้นไม่ได้กะมาสู้ขำๆ เขาจริงจังมากและถึงขนาดไปซ้อมกับตำนานไร้พ่าย 15-time world champion อย่าง Floyd Mayweather ที่กำลังจะมีไฟท์อัดกับพี่ชาย Jake นาม Logan Paul
ซึ่งแฟนๆ MMA ถึงกับตกตะลึงเมื่อทั้งคู่ได้เจอกันในวันที่ 29 สิงหาคม 2021 จากการคาดเดาว่า Tyron จะสามารถชนะน็อค Jake Paul กู้หน้าศักดิ์ศรีให้กับวงการ MMA ได้อย่างแน่นอน แต่กลับกลายเป็นว่าคู่นี้ถูกลากไปจนจบยกที่ 8 และก็ยังเป็น Jake Paul ที่ชนะคะแนนอย่างไม่เป็นเอกฉันท์อีกต่างหาก ตอกย้ำความเดือดดาลให้กับแฟนๆ MMA เป็นอย่างมาก และ Tyron เองก็โดนโซเชียลรุมด่าเสียๆหายๆ ขับไล่ออกจากกลุ่มนักสู้จากสถาบันที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี หาว่าไม่ยอมเข้าไปแลกหมัด มัวแต่กล้าๆ เกรงๆ ตามสไตล์พี่แกที่ชอบสู้แบบยึกๆยักๆ ออกอาวุธก็ดันน้อยกว่าอีก อดีตแชมป์ UFC สู้แบบนี้โดนรุมประฌามยับหมอไม่รับเย็บก็ไม่ถือว่าแปลกเลยทีเดียว
แพ้ยังไม่เท่าไหร่ แต่ก่อนหน้านี้ทั้งคู่มีการท้าทายกันว่าหากใครแพ้จะต้องสักคำว่า “I love (ชื่อฝ่ายตรงข้าม)” ไว้บนร่างกายเพื่อเป็นการตอกย้ำการขายขี้หน้าไปตลอดชีวิต ซึ่ง Tyron Woodley ก็แมนพอ (มั้ง?) ได้สักประโยคฉันรัก Jake Paul ไว้จริงๆ แต่กวนตีนเล่นแง่ด้วยการสักบนนิ้วกลางและลายสักก็ได้เลือนหายไปภายในไม่เกิน 3 เดือนหลังจากนั้น โดย Tyron บอกว่า
“ผมสักจริงครับ แต่ผมพยายามล้างแม่งออกทุกวันจนมันเลือนหายไปหมดแล้ว ผมไม่คิดที่จะมีชื่อมันบนตัวผมไปตลอดชีวิตหรอกนะ ยังไงผมก็รู้สึกว่าผมไม่สมควรแพ้ด้วยซ้ำไป”
อย่างไรก็ตามค่าตัวที่มีการเปิดเผยคือได้คนละ 2 ล้านเหรียญ หรือราว 66 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมค่าส่วนแบ่ง PPV นั้นถึงว่าโครตฟลุ๊คสำหรับ The Chosen One ที่ถึงแม้ว่าจะพ่ายแพ้ แต่ในมุมมองของการลงแรง ค่าเสียเวลาซ้อม ค่าทำ marketing ต่างๆ ถือว่าคุ้มค่าสุดๆ เพราะแค่แมทช์นี้แมทช์เดียว Tyron ก็มีอิสรภาพทางการเงินไม่ต้องทำมาหากินอีกเลยยังได้ เมื่อเทียบกับระยะเวลากว่า 10 ปี หรือ 26 ไฟท์ ตลอดอาชีพ MMA ของ Woodley ที่ทำเงินได้รวม 4.8 ล้านเหรียญ (150 ล้านบาท) ถือได้ว่าการต่อยเอากระแสเป็นอะไรที่ win-win กันทุกฝ่าย ยกเว้นแฟนๆ MMA บางกลุ่มที่ยังมัวแต่หัวเสียไปตามดราม่าในโลกโซเชียล
ปิดปี 2021 กับกระแสดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ และเริ่มได้รับการยอมรับในฝีมือ
Jake Paul เดินหน้าสร้างกระแสต่อไป ด้วยการท้าชกกับนักมวยอาชีพตัวจริง Tommy Fury (7-0 ชนะ KO 4) แถมยังเป็นน้องชายแท้ๆ ของ “The Gypsy King” Tyson Fury แชมป์ไร้พ่าย 32-0 เจ้าของเข็มขัด WBA, IBF, WBO, IBO และ The Ring
อย่างไรก็ตาม Tommy ต้องขอถอนตัวออกไป 11 วันก่อนศึกเนื่องจากเกิดการติดเชื้อจากแบคทีเรียที่อกและก็ยังมีอาการซี่โครงร้าว Tyron Woodley ก็เลยส้มหล่นได้เป็นมวยแทนขอชำระแค้น ซึ่งแฟนๆทุกคนต่างก็คิดว่า Tyron มาดุแน่ครั้งนี้และคาดว่าจะยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับ youtuber จอมคุยโวคนนี้ได้แน่นอน
แต่แล้วในยกที่ 6 ของคู่เอกนั้น…. ภายหลัง Tyron รื้อฟื้นความทรงจำและได้ให้สัมภาษณ์ว่า
“ผมย้อนกลับมาดูไฟท์นี้และต้องตกใจว่า เฮ้ย กูเอาการ์ดลงทำเปี๊ยกอะไรว่ะ ผมรู้ว่าเขากำลังเหวี่ยงหมัดมาผมมองเห็น แต่ผมไม่รู้ตัวว่าทำไมผมลดการ์ดลง ในเกมกีฬานี้แค่ความผิดพลาดครั้งเดียว…. แค่ครั้งเดียวก็เกมแล้ว”
Tyron Woodley โดนหมัดฮุคขวาเข้าไปที่กรามอย่างจังหมดสติหลับกลางอากาศหน้ากระแทกพื้น พ่ายแพ้อย่างไร้ข้อกังขาในไฟท์ที่ 2 นี้…
ผมเพิ่งน็อคเอาท์แชมป์ UFC 5 สมัยและทำให้ทั้งบริษัทคุณขายหน้า Dana White จัดให้ผมเจอทั้ง Kamaru Usman หรือ Nate Diaz หรือ Jorge Masvidal หรือจะเป็น Conor McGregor ก็ได้ เพราะผมจะทำให้พวกนั้นอับอายให้หมดเลยผมสัญญา
เปิดศักราชใหม่ปี 2022 เรามาคอยติดตามกันว่า Youtuber สายเกรียนกับสถิติมวยสากล 5-0 คนนี้จะมีการพัฒนาฝีมือมวยสากลมากขึ้นเทียบเท่ากับฝีปากหรือไม่ เหล่าแฟนๆอย่างเราต้องคอยติดตามชมกันต่อไป ว่านักสู้คนต่อไปจะเป็นใครและจะช่วยกู้ศักดิ์ศรี MMA ได้หรือไม่……
แต่ที่รู้ๆ คือผู้ชมทั่วโลกทุกคนต่างก็ใจจดใจจ่อที่จะกระทืบซ้ำ เมื่อถึงวันนที่มีพระเอกขี่ม้าขาวมายัดเยียดความพ่ายแพ้ครั้งแรกให้กับ Jake “The Problem Child” Paul …
