ในวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 ที่ผ่านมาเกิดเหตุเศร้าสะเทือนใจกับวงการมวยปล้ำอาชีพแบบไม่คาดคิดเมื่อ Hogan เสียชีวิตกระทันหันจากภาวะหัวใจวายในเมือง Clearwater รัฐฟลอริดา ขณะอายุ 71 ปี ข่าวนี้ต่างสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับแฟนทั่วโลกทุกเพศทุกวัยที่เคยได้ดูแกปล้ำตั้งแต่อดีตจนถึงช่วงแขวนรองเท้า ทำงานเบื้องหลัง และได้โชว์ตัวให้กับหลากหลายสมาคมมากมาย….
ในโลกของการมวยปล้ำอาชีพ มีนักมวยเพียงไม่กี่คนที่สามารถอ้างได้ว่าเปลี่ยนวงการนี้ไปตลอดกาล และ Terry Gene Bollea หรือที่โลกรู้จักในนาม Hulk Hogan คือหนึ่งในนั้น นับตั้งแต่ยุค 1980s ที่เขาขึ้นมาเป็นพระเอกของ WWF (ปัจจุบันคือ WWE) ไปจนถึงการกลับมาในฐานะ “ตัวโกงถึงขีดสุด” character ที่ช็อควงการมวยปล้ำอย่าง Hollywood Hogan ใน WCW ยุค 1990s “The Hulkster” ได้สร้าง legacy หรือมรดกที่ยิ่งใหญ่มากมายและเป็นที่จดจำไม่รู้ลืม
บทความนี้จะพาคุณย้อนรำลึกถึงช่วงเวลาและแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพของ Hulk Hogan ที่ทำให้เขากลายเป็นตำนานแห่งเวทีมวยปล้ำ ทุกๆ ความทรงจำที่กลายเป็นประวัติศาสตร์และช่วงเวลาที่ทำให้แฟนๆ ทั่วโลกต้องลุกขึ้นจากเก้าอี้เพื่อตะโกนร้องส่งเสียงเชียร์แกเพื่อให้ได้รับชัยชนะในแมตช์นั้นๆ
1. WrestleMania III vs. Andre the Giant: การต่อสู้ที่เปิดประตูสู่ยุคสมัยแห่งความรุ่งโรจน์ให้กับ WWF

หากจะพูดถึงแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การมวยปล้ำ WrestleMania III เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 1987 ต้องอยู่ในอันดับต้นๆ อย่างแน่นอน การเผชิญหน้าระหว่าง Hulk Hogan และ Andre the Giant ไม่ได้เป็นเพียงแค่แมตช์มวยปล้ำธรรมดา แต่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่เปลี่ยนโลกแห่งการบันเทิงไปตลอดกาล
ณ Pontiac Silverdome ในมิชิแกน ผู้ชมกว่า 93,000 คนได้เป็นสักขีพยานการปล้ำระหว่าง “ยักษ์ใหญ่แห่งฝรั่งเศส” Andre the Giant ที่มีส่วนสูงถึง 224 ซม. (7 ฟุต 4 นิ้ว) น้ำหนัก 236 กิโลกรัม (520 ปอนด์) กับ “ซูเปอร์ฮีโร่อเมริกัน” Hulk Hogan ผู้กล้าหาญ
สิ่งที่ทำให้แมตช์นี้พิเศษไม่ใช่แค่ขนาดของ Andre ที่ใหญ่มหึมาเหมือนสัตว์ประหลาดยักษ์กลางฝูงคน หรือความได้รับความนิยมของ Hogan เท่านั้น แต่เป็นการดำเนินเรื่องราวที่บอกเล่าถึงอดีต Andre ที่เคยเป็นเพื่อนกับ Hogan ได้หันหลังให้กับเขาและท้าทายแชมป์เปี้ยน โดยได้รับการสนับสนุนจากจอมขี้โกง “Million Dollar Man” Ted DiBiase และ Bobby “The Brain” Heenan
โมเมนต์สำคัญที่สุดของแมตช์เกิดขึ้นเมื่อ Hogan สามาระจับ Andre ผู้ซึ่งมีน้ำหนักกว่า 236 กิโลกรัม ยกขึ้นใส่ท่า Bodyslam ฟาดลงกับพื้นได้ในศึกที่มีผู้ชมเป็นล้านๆคนทั่วโลก ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน (ถึงแม้จริงๆแล้วก่อนหน้านี้รายการเดินสายรายสัปดาห์ก็มีคลิปที่ Hogan เคยจับยก slam มาก่อนหน้านี้) และปิดเกมส์ด้วยท่าไม้ตาย leg drop คว้าชัยชนะได้ในที่สุด ภาพที่ Hogan ยก Andre ขึ้นสูงนั้นกลายเป็นหนึ่งในภาพ Iconic ที่โดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์วงการมวยปล้ำ และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของ “Hulkamania” ที่สามารถเอาชนะทุกสิ่งได้
แมตช์นี้ไม่เพียงแต่ทำให้ Hogan กลายเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองของ WWF ที่ส่งผลต่อวงการมวยปล้ำจนถึงปัจจุบัน อีกทั้ง Vince McMahon ก็ได้มาเปิดเผยภายหลังด้วยว่าแมตช์นี้คือ Do or Die ของธุรกิจ WWF ที่เขาทุ่มเงินหมดหน้าตักเพื่อทำให้สมาคมเข้าสู่กระแส mainstream ให้ได้ ซึ่งหากวันนั้นแมตช์นี้ไม่ปัง หรือ Hogan ไม่ได้ขึ้นปล้ำกับ Andre เราก็อาจจะไม่มีโอกาสได้ดูมวยปล้ำ WWE มาจนถึงปัจจุบัน
2. WrestleMania V vs “Macho Man” Randy Savage: มิตรภาพที่แตกสลาย

หลังจากความสำเร็จของศึก WrestleMania III ต่อมา WWF ได้นำเสนอเรื่องราวที่เพิ่มความซับซ้อนและเต็มไปด้วยอารมณ์ระหว่าง Hulk Hogan และ Randy “Macho Man” Savage ในแมตช์ที่ได้รับการขนานนามว่า “The Mega Powers Explode”
เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่ Hogan และ Savage เป็นพันธมิตรในชื่อ “The Mega Powers” พวกเขาต่อสู้เคียงข้างกันและดูเหมือนจะเป็นทีมที่แข็งแกร่งที่สุดใน WWF แต่ความสัมพันธ์เริ่มแตกร้าวเมื่อ Savage เริ่มสงสัยว่า Hogan แอบมีความสัมพันธ์ลับๆกับ Miss Elizabeth ผู้จัดการสาวของเขา
จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นในศึก Saturday Night’s Main Event เมื่อ Hogan พยายามช่วย Savage ที่ถูกโจมตี แต่กลับไปชนกับ Miss Elizabeth โดยไม่ได้ตั้งใจ Savage ที่เห็นภาพนี้เข้าใจผิดและโกรธจัด เขาจึงทำการโจมตี Hogan ด้วย title belt ทำให้ทีม The Mega Powers แตกแยกทันที
ศึก WrestleMania V ณ Trump Plaza ในแอตแลนติกซิตี้ การเผชิญหน้าระหว่างสองซูเปอร์สตาร์ที่ยิ่งใหญ่นี้ได้จับใจต่อผู้ชมทั่วโลก แมตช์ซึ่งเต็มไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านเจากการประจันหน้ากันระหว่างอดีตเพื่อนรักที่กลายเป็นศัตรูคู่แค้น
Hogan ชนะแมตช์นี้ด้วย leg drop ท่าไม้ตายก้นหีบของเขา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ Story Telling การเล่าเรื่องต่างๆที่สะกดแฟนๆ ให้เชื่อในเรื่องราวและรู้สึกถึง drama ได้อย่างสมบูรณ์แบบ แมตช์นี้พิสูจน์ให้เห็นว่า Hogan ไม่ได้เก่งแค่การเป็นฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรม แต่ยังสามารถบอกเล่าเรื่องราวที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยอารมณ์ได้อย่างยอดเยี่ยม
3. The Ultimate Warrior Feud: ศึกดวลมัดกล้ามระหว่างฝ่ายธรรมะ

การ feud ระหว่าง Hulk Hogan และ The Ultimate Warrior เป็นอีกหนึ่ง Story ที่มีความน่าสนใจและแปลกใหม่มากๆ ในยุคทองของ WWF เป็นการเผชิญหน้าของทั้งคู่ในศึก WrestleMania VI ซึ่งเป็นโมเมนต์สำคัญในประวัติศาสตร์ WWF
ที่ SkyDome โตรอนโต การแมตช์ “Champion vs. Champion” ระหว่าง WWF Champion Hulk Hogan และ Intercontinental Champion The Ultimate Warrior เป็นแมตช์ที่สร้างผลกระทบอย่างมาก
สิ่งที่ทำให้แมตช์นี้พิเศษคือเราจะไม่ค่อยได้เห็นฝ่ายธรรมะต้องมาเจอกันเอง รวมถึงการที่ Hogan พา Warrior ซึ่งเป็นนักมวยปล้ำที่ฝีมือไม่ค่อยดี สามารถปล้ำได้ตามบทที่สร้างไว้ รวมถึงการตั้งใจยอมแพ้ให้กับ Warrior จริงๆในบท ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยในอาชีพของเขาเลย การแพ้ของ Hogan ทำให้ Warrior กลายเป็นแชมป์เปี้ยนคนใหม่และเป็นแรงผลักดันให้เขาไปสู่ main event level ตัวแบกคนใหม่ของสมาคม
4. การต่อสู้กับปิศาจจอมทำลายแห่งยุค Vader: ศึกพลัง vs พลัง

หลังจากออกจาก WWF ในปี 1993 Hogan ย้ายไปยัง WCW หนึ่งใน fuel ที่น่าติดตามมากๆคือการที่ Hulk Hogan ได้มาเผชิญหน้ากับ Big Van Vader นักมวยปล้ำร่างยักษ์แชมป์หลายสมัยใน WCW และจากญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงในเรื่องความแข็งแกร่งและความโหดร้าย ซึ่งพลังการโจมตีของพี่แกคือหนักจัดๆ ทั้งทุบ ทั้งต่อย กระโดด bump รวมถึงท่า Vader bomb ที่โคตรรุนแรง ใครได้ประจันหน้าบอกเลยว่าช้ำ เพราะ Vader เป็นนักมวยปล้ำสายโจมตีมาแต่ไหนแต่ไร
ทั้งคู่เจอกันในศึก SuperBrawl V ในปี 1995 เป็นการต่อสู้แบบใช้พลังปะทะกัน แต่แน่นอน Vader ที่มีน้ำหนักกว่า 400 ปอนด์และมีชื่อเสียงในการทำร้ายคู่ต่อสู้ เป็นฝ่ายเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
Vader ซึ่งโดนท่า leg drop ซัดไปแต่สามารถ kick out ออกมาได้ แล้วกลับเป็นคนใส่ท่าไม้ตาย Vader bomb เต็มแรง แต่กรรมการกลับไม่พร้อมนับซะงั้น อย่างไรก็ตาม Rick Fair ที่วิ่งขึ้นมาป่วน บวกกับพลังแฝง Hulk Hogan ดีดขึ้นมาพอดี ทำให้เขาได้เปรียบแต่กรรมการก็สั่งยุติการแข่งขันจากการมั่วโดน Rick Flair ทำให้ Hogan ชนะแมตช์นี้ไปได้
5. การทรยศแบบช็อคโลก: กลายร่างเป็น “Hollywood Hogan” ฝ่ายอธรรมโคตรมหาโกงครั้งแรกในอาชีพ และการก่อตั้งแก๊งค์ nWo สุดโด่งดังในวงการมวยปล้ำ

Gimmick “ฮีโร่ธรรมะ” ที่สุดแสนจะเป็นเอกลักษณ์ของ Hogan กับ theme สีเหลือง พลังแฝง และการเก็บชัยชนะด้วย leg drop นั้น กลับเริ่มไม่เป็นที่นิยมกับผู้ชมอีกต่อไป พวกเขาเริ่มเบื่อหน่ายกับตัวละครคุณธรรมแสนดีเสียแล้วนี้สิ ถึงขนาดโห่ไล่พระเอกในวัยเยาว์ที่มาพร้อมสีแดงและเหลืองซะไม่เหลือความเป็นฮีโร่ พวกเขาต้องการ “ความเท่ ความดิบ ความ real สไตล์เถื่อนๆแบบนี้มากกว่า” จนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในศึก Bash at the Beach 1996
ในแมตช์ระหว่าง Randy Savage, Lex Luger, และ Sting ที่เผชิญหน้ากับ 2 นักมวยปล้ำสุดแกร่งที่เพิ่งย้ายจาก WWF มา ที่เรียกกลุ่มตัวเองว่า “The Outsiders” คนแปลกหน้าอย่าง Kevin Nash และ Scott Hall โดยระหว่างที่ทั้งสองฝั่งนอนกองหมดสภาพบนพื้น
ทันใดนั้น Hulk Hogan ฮีโร่ฝ่ายธรรมมะก็เดินออกมาทำเหมือนจะมาช่วย Randy Savage แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดเขึ้น เมื่อเขากับใช้ท่าไม้ตาย leg drop ใส่ Randy Savage 3 ครั้งติด พร้อมจับมือเป็นพันธมิตรกับ “The Outsiders” Scott Hall และ Kevin Nash และสร้างทีม nWo ขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการปฏิวัติทั้งภาพลักษณ์และบุคลิกของ Hogan อย่างสิ้นเชิงจากหน้ามือเป็นหลังมือ เขาย้อมหนวดเคราผสมระหว่างสีบลอนด์และสีดำ ใส่แว่นกันแดดดำขบถต่อต้านทุกอย่าง พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น “Hollywood” Hogan และใส่เสื้อ nWo สีดำแทนสีแดงและเหลือง
แฟนๆ ตอบสนองต่อ Gimmick นี้ด้วยความยินดี ปาขยะใส่เวที ขับไล่ให้พ้นๆหน้า ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความรู้สึกทรยศที่แฟนๆ มีต่อ Hogan ที่พวกเขารักมาตั้งแต่เด็ก การเปลี่ยนแปลงนี้กลายเป็นหนึ่งในโมเมนต์ที่น่าตกใจที่สุดในประวัติศาสตร์การมวยปล้ำ
Hollywood Hogan พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเป็นมากกว่าแค่ฮีโร่อเมริกัน เขาสามารถเป็นฝ่ายอธรรมที่น่ารังเกียจได้อย่างสมบูรณ์แบบ การปรับ character ครั้งใหญ่นี้ทำให้อาชีพของเขายาวนานขึ้นอีกหลายปีและสร้างเรื่องราวที่น่าติดตามทุกอาทิตย์ในยุค Monday Night Wars
6. Clash of the Champions XXXIV vs. Ric Flair: ตำนานแห่งสองยุคมาโคจรบรรจบกัน

หนึ่งในแมตช์ที่มักถูกมองข้ามในอาชีพของ Hulk Hogan คือการเผชิญหน้ากับ “Nature Boy” Ric Flair ศึก Clash of the Champions XXXIV ในปี 1997 แมตช์นี้พิเศษเพราะเป็นการต่อสู้ระหว่างสองนักมวยปล้ำตัวแทนแห่งยุคสมัยและสมาคมที่แตกต่างกัน
Ric Flair ที่เป็นตำนานของ NWA/WCW และ Hulk Hogan ที่เป็นซูเปอร์สตาร์จาก WWF การเผชิญหน้านี้เป็นครั้งแรกในระดับ pay-per-view ที่สองตำนานได้ต่อสู้กันแบบ one-on-one
สไตล์การปล้ำของทั้งคู่แตกต่างกันมาก Flair เป็นนักมวยปล้ำแบบเทคนิค ชอบใช้กลยุทธ์และแท็คติกการโกงต่างๆ ในขณะที่ Hogan เป็นสไตล์ power wrestler ที่พึ่งพละกำลังและเสียงเชียร์จากแฟนๆ ที่น่าตลกนิดหน่อยคือพอตัวโกงเจอกันเอง Hogan ในบทอธรรม nWo ดันเรียกพลังแฝงออกมาซะงั้น…
แมตช์จบลงด้วยชัยชนะของ Hollywood Hogan หลังจากการแทรกแซงจาก nWo แต่สิ่งที่สำคัญคือการแสดงของทั้งคู่ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขายังคงเป็นนักมวยปล้ำระดับโลกแม้จะอายุมากขึ้น
7. Starrcade 1997 การเจอกันกับ Sting และการสิ้นสุดยุค nWo

การครองบัลลังก์ WCW World Heavyweight Championship ของ Hollywood Hogan ตั้งแต่ Bash at the Beach 1996 ได้สร้างความเกลียดชังต่อแฟนๆ และทำให้ WCW มี Heel นักมวยปล้ำฝ่ายอธรรมที่แข็งแกร่งที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ แต่ทุกเรื่องราวดีๆ ต้องมีจุดจบ และจุดจบของการครองบัลลังก์ยาวนานของ Hogan เกิดขึ้นในศึก Starrcade 1997
Sting ผู้ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองจากนักมวยปล้ำขวัญใจแฟนๆ มาเป็นนักมวยปล้ำแห่งรัตติกาล อีกาพญายม “Crow Sting” ในช่วงยุค nWo เขาได้ใช้เวลาหนึ่งปีเต็มในการไล่ล่า nWo และ Hollywood Hogan โดยเฉพาะ เขาแขวนตัวเองจากเพดานของ arenas หลายแห่ง โจมตีสมาชิก nWo อย่างไม่ทันคาดคิด และสร้างความหวาดกลัวให้กับกลุ่มขบถที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาคม ณ ขณะนั้น
ศึก Starrcade 1997 ณ MCI Center ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. การเผชิญหน้าระหว่าง Hollywood Hogan และ Sting เป็นการจบเรื่องราวที่แฟนๆ รอคอยมายาวนาน แม้ว่าแมตช์จะมีปัญหาทางเทคนิคบางประการ แต่โมเมนต์ที่ Sting ชนะและคว้า WCW World Championship กลับมาเป็นการเฉลิมฉลองของแฟนๆ WCW ทั่วโลกที่รอคอยมานาน
โดยหลังฉากของแมตช์นี้กลับมีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะตามบท Hogan จะกดนับสาม Sting ได้จากการช่วยเหลือของกรรมการที่ตั้งใจนับเร็วเพื่อให้ Hogan ชนะ แต่เขากลับไปออกคำสั่งก่อนแมตช์กับกรรมการว่าให้นับด้วยความเร็วปกติ ทำให้การปล้ำจริงนี้ดูเหมือน Sting จะแพ้จริงแบบแฟร์ๆ จากการถูกกดนับสาม ซึ่งเป็นการทำให้ Sting เสียหน้าและชัยชนะแมตช์นี้ไม่ใช่ชัยชนะที่แท้จริงในสายตาแฟนๆบางคน
ความพ่ายแพ้ของ Hogan ในคืนนั้นแม้จะไม่ใช่จุดจบของ nWo แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของกลุ่มที่เคยครองโลกการมวยปล้ำมาในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา
8. Icon vs Icon การต่อสู้ระหว่างตำนานแห่งอดีต vs ตำนานแห่งอนาคต

หลังจากการยุติ Monday Night Wars และการซื้อกิจการ WCW โดย WWE ในปี 2001 แฟนๆ หลายคนคิดว่าจะไม่มีวันได้เห็น Hulk Hogan กลับมาสู่ WWE อีกแล้ว แต่ศึก WrestleMania X8 ในปี 2002 ประวัติศาสตร์ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้ง
แมตช์ระหว่าง Hollywood Hogan และ The Rock ในวันที่ 17 มีนาคม 2002 ณ SkyDome ในโตรอนโต ประเทศแคนาดา ถือเป็นการเผชิญหน้าระหว่างสองยุคสมัยมวยปล้ำ ตำนานจากยุค 1980s-90s กับซูเปอร์สตาร์ใหม่แห่งยุค Attitude Era
สิ่งที่น่าสนใจคือผู้ชมในแคนาดาส่วนใหญ่หันมาเชียร์ให้ Hogan ซึ่งรับบทฝ่ายอธรรมแทนที่จะเป็น The Rock ที่รับบทพระเอก ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดมาก่อน พลังของ “Hulkamania” ที่หายไปนานกลับมาอีกครั้งในคืนนั้น
แมตช์เต็มไปด้วยความกระตือรือร้นและอารมณ์จากแฟนๆทั่วโลก ทั้งคู่ปล้ำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ The Rock ที่แสดงให้เห็นถึงการเคารพต่อ Hogan ตลอดแมตช์ ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะของ The Rock แต่หลังแมตช์ทั้งคู่แสดงความเคารพซึ่งกันและกัน และเป็นการส่งต่อคบเพลิงตามธรรมเนียมมวยปล้ำจากตำนานยุคเก่าสู่ตำนานสู่ยุคใหม่เพื่อสร้างสรรค์เนื้อเรื่อง ความสนุก ความตื่นเต้น และดราม่าต่างๆให้กับวงการมวยปล้ำต่อไป
แมตช์นี้ไม่เพียงแต่เป็นการกลับมาที่ประสบความสำเร็จของ Hogan แต่ยังเป็นการยืนยันว่าเขายังคงเป็น draw card ที่สำคัญให้กับสมาคมแม้จะอยู่ในวัย 48 ปี ก็ตาม
9. การกลับสู่ตัวตนที่แท้จริงอีกครั้ง Brother!!!

หลังจาก WrestleMania X8 Hollywood Hogan ได้กลับมาเป็นฝ่ายธรรมะอย่างเต็มตัวอีกครั้งกับ character แรกที่สร้างชื่อให้เขาในอดีต โมเมนต์สำคัญเกิดขึ้นใน Monday Night Raw เมื่อเขาถอดเสื้อ nWo ออกและกลับมาสวมเสื้อแดงเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์
การเปลี่ยนแปลงนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากแฟนๆ ที่เฝ้ารอคอยจะได้เห็น “Real American” Hulk Hogan กลับมาอีกครั้ง เสียงเชียร์จากผู้ชมในคืนนั้นแสดงให้เห็นว่า Hulkamania ยังคงมีอยู่ในใจของแฟนๆ มากมายทุกยุคทุกสมัย
การกลับมาครั้งในเขาสามารถคว้าแชมป์โลก WWE Championship ได้อีกครั้งเมื่อเขาเอาชนะ Triple H ที่ Backlash 2002 ซึ่งเป็นการครอง title ครั้งสุดท้ายในอาชีพของเขาอีกด้วย
