ในขณะที่ WCW กำลังผลัดใบในยุคสุดท้าย แฟนมวยปล้ำก็ได้รู้จักกับ ‘Sugar’ Shane Helms ชายหนุ่มสุดเซ็กซี่จากกลุ่ม Three Count ขวัญใจสาวๆที่ถูกวางให้เป็นดาวเด่นคนต่อไปของรุ่นครุยเซอร์เวท แต่ทว่ายังไม่ทันที่เขาจะก้าวไปถึงจุดสูงสุด สมาคมต้นสังกัดก็ดันพ่ายแพ้ทางธุรกิจและถูกซื้อโดยสมาคมคู่แข่งอย่าง WWF ส่งผลให้นักมวยปล้ำหลายรายต้องตกงานลงอย่างน่าเศร้า
โชคดีที่ Shane Helms เป็นหนึ่งในนักมวยปล้ำที่ WWF เลือกเซ็นสัญญาระยะยาวต่อไป ซึ่งแฟนมวยปล้ำหลายคนก็มองว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องยากนักที่ซุปเปอร์สตาร์อย่างเขาจะประสบความสำเร็จในสมาคมใหม่ โดยเฉพาะเมื่อเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กอย่าง The Hardy Boyz กลายเป็นคู่แท็คทีมระดับซุปเปอร์สตาร์และเป็นแชมป์แท๊กทีมหลายต่อหลายครั้งที่มีอิทธิพลในสมาคมอยู่ไม่น้อย และคงจะสามารถช่วยผลักดันเพื่อนของพวกเขาให้ก้าวไปข้างหน้าได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ทว่าโลกแห่งความเป็นจริงกลับไม่ได้ง่ายแบบนั้น
ในคืนแรกของเขากับ WWF สมาคมเรียกเขาเข้าไปคุยและบอกว่าแชมป์ครุยเซอร์เวทชั้นนำจาก WCW อย่าง ‘Sugar’ Shane Helms นั้นจะต้องขึ้นปล้ำด้วยชื่อจริงคือ ‘Hollywood’ Gregory Helms และเสียแชมป์ให้กับ Billy Kidman ไปแบบง่ายๆ นอกจากนี้เขาจะไม่สามารถใช้ท่าไม้ตายเดิม ไม่สามารถใช้เพลงเปิดตัวเดิม พูดตรงๆคือไม่มีอะไรเหมือนเดิมเลยสักอย่าง และมาถึงตอนนั้นที่สมาคมมีนักมวยปล้ำล้นอยู่มือ ผู้คนต่างเริ่มตั้งคำถามและกังวลใจแล้วว่าเขาจะเอาตัวรอดได้อย่างไรในสมาคมที่ไม่มีทิศทางใดๆให้เลย
เขารู้ตัวแล้วว่ากิมมิค ‘Hollywood’ Gregory Helms นั้นไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีและมันจะไม่สามารถทำให้เขาประสบความสำเร็จได้ ดังนั้นเมื่อรู้ตัวได้เร็ว สิ่งที่เขาทำต่อมาทันทีก็คือพยายามนั่งไล่รายชื่อว่าตนเคยรับบทอะไร หรือแม้แต่เคยมีไอเดียอะไรอยู่ในหัวบ้าง ทั้งนี้เพราะเขาเพิ่งเสียเข็มขัดแชมป์ซึ่งคล้ายเหมือนการสูญเสียเกราะกำบังของตนเอง ดังนั้นเขาต้องมีกิมมิคใหม่ที่น่าสนใจโดยเร็วที่สุดก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
หลังจากที่เขาพยายามคิดอยู่นาน เขาก็ตกผลึกว่าตนเองชอบการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่อย่าง Green Lantern มาก และกิมมิคซุปเปอร์ฮีโร่ก็ถือเป็นเรื่องใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัย แน่นอนว่ามันคือไอเดียที่วิเศษมากและ WWE ก็ให้ไฟเขียวกับเขาทันที
แม้กิมมิคนี้จะออกไปในเชิงตลกเป็นหลัก แต่เขาก็ไม่ได้มองว่ามันเป็นปัญหา เพราะหนึ่งมันคือกิมมิคเชิง ‘Larger Than Life’ ที่เคยเป็นรากฐานของ WWE ในอดีต และสองมันคือโอกาสที่จะทำให้เขาอยู่ที่จุดไหนก็ได้ในโชว์ เขาสามารถเป็นคนตัวเล็กที่เล่นในรุ่นครุยเซอร์เวทเหมือนเดิม หรือสามารถเนียนใช้พลังของฮีโร่ในการก้าวขึ้นไปสู้กับคนตัวใหญ่ก็ได้ ซึ่งสมาคมเองก็เห็นถึงประโยชน์ในจุดนี้เช่นกันจนนำไปสู่จังหวะฮาๆกับ ‘Stone Cold’ Steve Austin และ Triple H ใน Royal Rumble รวมถึงชัยชนะสุดพลิกล็อคต่อ ‘The Rock’ ในศึก Monday Night Raw ช่วงปี 2003
จำใจแยกทางกับ WWE แต่คนดูยังคงระลึกถึงเขาในบทบาท The Hurricane
จุดจบของกิมมิค The Hurricane มาพร้อมกับยุคที่ WWE อยากให้มวยปล้ำมีความสมจริงมากขึ้น โดยเราเห็นเขาปรากฏตัวใน WWE ECW ก่อนออกจากสมาคม ซึ่งเขามองว่าเป็นช่วงที่ทิศทางของเขากับฝ่ายครีเอทีฟเริ่มออกไปคนละทางแล้วเพราะคำว่า ‘ซุปเปอร์ฮีโร่’ กับคำว่า ‘สมจริง’ มันขัดแย้งกันตั้งแต่ต้น และการถูกจับไปปล้ำใน ECW ยุคใหม่ก็ทำให้เขายิ่งหมดไฟมากกว่าเดิม ทั้งนี้เพราะเขาคิดว่า ECW เป็นโชว์ที่สมาคมไม่ให้ความสำคัญแล้ว ดังนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าจะพยายามให้กำลังใจตัวเองเพื่อไปขึ้นปล้ำในโชว์ที่ไม่มีอนาคตทำไม อีกอย่างคือสมาคมลดความโดดเด่นของกิมมิคซุปเปอร์ฮีโร่ลงจนเขาต้องไปแพ้ตาสีตาสาที่ไหนก็ไม่รู้ อนึ่งเขาไม่ได้โกรธเลยที่ต้องปล้ำแพ้เพราะมันเป็นเพียงบริบทหนึ่งของโชว์ แต่สิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเขาก็คือการที่กิมมิค The Hurricane ซึ่งเป็นถึงกิมมิคยอดเยี่ยมประจำปี 2001 ต้องถูกลดคุณค่าลงโดยไม่จำเป็น
เขาออกจาก WWE ในเดือนกุมภาพันธ์ 2010 หลังจากย้ายไปอยู่กับ ECW ได้เพียง 10 เดือน
สิ่งที่เกิดขึ้นกับกิมมิคของเขาในช่วงท้ายส่งผลต่อความเชื่อมั่นอยู่ไม่น้อย ดังนั้นเมื่อต้องกลับไปขึ้นปล้ำในสมาคมอิสระ เขาจึงตัดสินใจถอดหน้ากากและกลับไปใช้คาแรกเตอร์อื่นๆดูบ้าง แต่สุดท้ายไม่ว่าเขาจะไปขึ้นปล้ำที่ใด แฟนๆกลับเอาแต่ตะโกนชื่อของ ‘The Hurricane’ เสมอ ทำให้เขารู้แล้วว่าตนไม่สามารถตัดขาดกิมมิคนี้ได้ และมันยังคงสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนมวยปล้ำได้อย่างที่เคย ดังนั้นเขาจึงขึ้นปล้ำในสมาคมอิสระทั่วโลกด้วยกิมมิคนี้ โดยสลับไปกับกิมมิคอื่นๆตามที่แต่ละสมาคมต้องการ
เป็นคนดีในแบบฉบับ Shane Helms ที่ใครๆ ก็รักและให้เกียรติเขา รวมถึงสมาคม WWE
ด้วยความที่เขายังคงอยู่ในกระแสและเป็นที่นิยมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เขาได้รีเทิร์นกลับมาสู่ WWE ในศึก Royal Rumble ปี 2018 และกลายมาเป็นโปรดิวเซอร์ในภายหลัง (ก่อนจะถูกยกเลิกสัญญาเพื่อลดค่าใช้จ่ายในช่วงที่โควิท-19 ระบาด) เรียกว่ากิมมิค The Hurricane คือสิ่งที่ช่วยโอบประคองอาชีพของเขาอย่างแท้จริง
มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่าทำไม WWE ไม่ฟ้องร้องที่เขานำกิมมิคซุปเปอร์ฮีโร่ไปใช้ในสมาคมอื่น เพราะปกติแล้วสมาคมจะพยายามถือสิทธิ์ในภาพลักษณ์ของนักมวยปล้ำและหลายครั้งที่มันนำไปสู่ปัญหาในภายหลัง อย่างไรก็ตามสำหรับกรณีของเฮอร์ริเคน เขามองว่าเหตุผลของมันง่ายนิดเดียวนั่นคือเขาจะให้เกียรติ WWE เสมอไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด
ปกติแล้วคนที่ออกจาก WWE ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของบรรดาเว็บไซต์กีฬาที่อยากให้นักมวยปล้ำออกมาด่าหรือแฉเรื่องภายในของสมาคม แต่เฮอร์ริเคนมองต่างออกไป เขาคิดว่าในเมื่อตนแยกทางกับ WWE ด้วยมิตรภาพ แล้วทำไมจะต้องหาเรื่องด่ามิตรสหายเก่าโดยไร้เหตุผลเพื่อแลกกับเงินหรือชื่อเสียงเพียงชั่วครั้งชั่วคราวด้วย โดยเขาให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ Killing The Town กับ Lance Storm ว่านอกเหนือจากมิตรภาพดีๆที่เขามีให้ WWE แล้ว ทางสมาคมเองก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดจะห้ามเขานำชื่อเสียงเดิมไปหากิน พวกเขาอนุญาตให้เลี่ยงไปใช้ชื่ออย่าง Hurricane Helms แทน The Hurricane โดยตรง รวมถึงอนุญาตให้ปรับคอสตูมนิดๆหน่อยๆ เพื่อไม่ให้ซ้ำกับของเดิมแม้จะดูใกล้เคียงกันมากก็ตาม
ต้องยอมรับว่าเขามีความสามารถในด้านการเอนเตอร์เทนคนดูสูงมาก เพราะไม่ว่าจะถูกจับไปรับบทใด เขาก็สามารถทำให้มันประสบความสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งกิมมิคบอยแบนด์ที่รับบทอยู่เพียง 9 เดือน เขาก็ทำให้คนพูดถึงจนปัจจุบัน หรือแม้แต่กิมมิคที่ใช้ชื่อจริงอย่าง Gregory Helms ที่ไม่ค่อยชอบใจนัก เขาก็สามารถผลักดันมันจนได้เป็นแชมป์ครุยเซอร์เวทที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของ WWE และยังไม่มีใครทำลายลงได้จนถึงปัจจุบัน
เรื่องราวของ ‘The Hurricane’ Gregory Helms เป็นหนึ่งในข้อพิสูจน์ให้เราเห็นว่าไม่มีช่วงเวลาใดหรอกที่ถือเป็นข่าวร้ายโดยสมบูรณ์ เพราะหากเรามองมันอย่างใส่ใจ เราก็อาจเจอหนทางบางอย่างที่สามารถพลิกชีวิตของเราให้กลับมาดีกว่าเดิมด้วยซ้ำ ขอเพียงแค่เราทำเต็มที่กับทุกโอกาสที่ได้รับมาก็พอ
การสวมชุดซุปเปอร์ฮีโร่ไม่ได้ทำให้คุณมีพลังพิเศษหรอก แต่การใช้ชีวิตเพื่อเกียรติของมันต่างหากที่ทำให้คุณเรียกตัวเองว่าฮีโร่ได้อย่างแท้จริง